วันอังคารที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2556

ภูมิภาคอเมริกาเหนือ

ภูมิภาคอเมริกาเหนือ



ข้อมูลน่ารู้ด้านเศรษฐกิจ "มณฑลบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา"
13/12/2010

ข้อมูลน่ารู้ด้านเศรษฐกิจ "มณฑลบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา"

     รัฐบาลมณฑลบริติชโคลัมเบีย ได้จัดการบรรยายสรุปเกี่ยวกับข้อมูลพื้นฐานที่น่าสนใจทางด้านเศรษฐกิจให้แก่คณะกงสุลประจำนครแวนคูเวอร์ประจำปี 2010 เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2553 ที่ผ่านมา โดยมีนาง Margaret MacDiarmid รัฐมนตรีว่าการท่องเที่ยว การค้าและการลงทุนและรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบกิจการต่างประเทศ นาย Allan Seckel รัฐมนตรีช่วยว่าการประจำสำนักมุขมนตรี นาย Martyn Brown รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว การค้าและการลงทุน และนาย Peter Milburn รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการขนส่งและสาธารณูปโภค ร่วมทำการบรรยายสรุป ในโอกาสนี้ นาย อรรถยุทธ์ ศรีสมุทร กงสุลใหญ่และนายวรรณะ เพิงมาก รองกงสุลใหญ่ ณ นครแวนคูเวอร์ ผู้ใหญ่ใจดีได้ไปร่วมรับฟังและ เก็บสาระดีมาฝาก ดังนี้


     1. การค้าและการลงทุน 
     - บริติชโคลัมเบีย มีสนง.ผู้แทนทางการค้าและการลงทุน และสนง.ส่งเสริมการท่องเที่ยว หลายแห่งทั่วโลก โดยมุ่งเน้นจัดตั้ง สนง.ในภูมิภาคอช.ตอ. ยุโรปตต. อินเดีย ออสเตรเลีย สิงคโปร์ และเม็กซิโก นอกจากนี้ ยังได้ทำความตกลงบ้านพี่เมืองน้องระหว่างเมืองต่างๆ ในบริติชโคลัมเบียกับเมืองต่างๆ ทั่วโลกประมาณ 110 เมือง

     - บริติชโคลัมเบียส่งสินค้าออกร้อยละ 82 ไปยังสหรัฐ ฯ ญี่ปุ่น จีนและเกาหลีใต้ โดยเมื่อปี 2000 ส่งออกไปจีนเป็นมูลค่า 706 ล้านเหรียญแคนาดาและในปี 2009 ส่งออกไปจีนคิดเป็นมูลค่า 2.47 พันล้านเหรียญแคนาดา และในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2010 มูลค่าการส่งออกเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 13.8 ส่วนใหญ่ส่งไปญี่ปุ่น 3.4 พันล้านเหรียญแคนาดา ส่งออกไปเกาหลีใต้ 1.58 พันล้านเหรียญแคนาดา ส่งออกไปสหรัฐ ฯ 11.18 พันล้านเหรียญแคนาดา และส่งออกไปยังยุโรปตต. 1.65 พันล้านเหรียญแคนาดา

     - สินค้าส่งออกของมณฑลบริติชโคลัมเบียที่มีมูลค่ากระเตื้องขึ้นในปีนี้ได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากไม้เนื้อแข็ง ส่งออกเป็นมูลค่า 4.2 พันล้านเหรียญแคนาดา เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 22.5 ผลิตภัณฑ์กระดาษและเยื่อไม้ มูลค่า 3.3 พันล้านเหรียญแคนาดา เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 14 ผลิตภัณฑ์พลังงาน มูลค่า 6.6 พันล้านเหรียญแคนาดา เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 18ผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตร มูลค่า 1.5 พันล้านเหรียญแคนาดา เพิ่มสูงขึ้น ร้อยละ 7 ผลิตภัณฑ์ปลา มูลค่า 806 ล้านเหรียญแคนาดาเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 8 และเครื่องจักรกลและอุปกรณ์ มูลค่า 2.3 พันล้านเหรียญแคนาดาเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 2

     - ไม้ท่อนเป็นสินค้าที่มีศักยภาพมากในบริติชโคลัมเบีย เพราะมีอุปสงค์เข้ามาใหม่ทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นประมาณร้อยละ 25 โดยในเดือนกันยายน 2553 ส่งออกไปยังจีนและญี่ปุ่นคิดเป็นมูลค่าร้อยละ 40.2 ในขณะที่ส่งออกไปยังสหรัฐ ฯ คิดเป็นร้อยละ 42.5 และตลอดปีนี้ บริติชโคลัมเบียส่งออกไม้ท่อนไปยังสหรัฐฯ แล้วคิดเป็นมูลค่าร้อยละ 47.5 และส่งไปจีนและญี่ปุ่นร้อยละ 33.8 ในขณะที่เมื่อปี 2005 สหรัฐ ฯ มีส่วนแบ่งร้อยละ 67 ในขณะที่จีนและญี่ปุ่นมีส่วนแบ่งร้อยละ 17 เท่านั้น

     - บริติชโคลัมเบียได้ทำคตล.ทางการค้ากับมณฑลอื่นๆ อาทิ คตล.ว่าด้วยการค้าภายใน ปี 1994 คตล.ว่าด้วยการค้า การลงทุนและการเคลื่อนย้ายแรงงาน ปี 2007 และคตล.ว่าด้วยหุ้นส่วนทางการค้าภาคตะวันตกใหม่ ปี 2010 ซึ่งจากคตล.ทำให้สามารถขยายตลาดได้เกือบ 9 ล้านคน มีขนาด GDP คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 550 พันล้านเหรียญแคนาดาและนับเป็นการรวบระบบเศรษฐกิจแบบเปิดที่มีความสามารถในการแข่งขันมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก หรือมีขนาดใหญ่กว่า GDP รวมของประเทศเล็กที่สุดใน EU 10 ปท.รวมกัน

     - แคนาดาเป็นภาคีสมาชิกของคตล.การค้าระหว่างประเทศ อาทิ WTO, NAFTA, CCFTA, Canada – Israel Free Trade Agreement , Canada – Costa Rica Free Trade Agreement, Canada – European Free Trade Agreement และ Canada – Peru Free Trade Agreement อย่างไรก็ดี ยังมีคตล.การค้าเสรีที่แคนาดาได้ลงนามไปแล้วแต่ยังไม่ให้การสัตยาบัน ได้แก่คตล.กับปท.โคลัมเบีย จอร์แดนและปานามา นอกจากนี้ แคนาดากำลังอยู่ในระหว่างหารือเพื่อทำคตล.การค้าเสรีกับอียู อินเดีย เกาหลีใต้ สิงคโปร์ มอรอกโก และตุรกี

     - Trans – Pacific Partnership (TPP) เป็นกลุ่มความร่วมมือที่บริติชโคลัมเบียให้ความสำคัญมาก โดยคตล.นี้เริ่มก่อตั้งด้วยบรูไน ชิลี นิวซีแลนด์ และสิงคโปร์ เมื่อเดือนมิถุนายน 2005 และขณะนี้ ออสเตรเลีย มาเลเซีย เปรู สหรัฐ ฯ และเวียดนาม กำลังเจรจาเพื่อเข้ารวมกลุ่มด้วย ในขณะที่ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ ได้แสดงความสนใจที่จะเข้าเป็นสมาชิก ส่วนแคนาดาเคยได้รับเชิญให้เข้าร่วมพูดคุยแต่ยังไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมในการเจรจาแต่อย่างใด

     - จุดขายของบริติชโคลัมเบีย ได้แก่ การเป็นประตูของแคนาดาด้านแปซิฟิก การมีภูมิประเทศที่มีธรรมชาติงดงาม การมีคุณภาพชีวิตที่ยอดเยี่ยม การเป็นมณฑลที่อุดมไปด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรม การดูแลสุขอนามัยชั้นเยี่ยมยอด การศึกษาชั้นเยี่ยม การเป็นจุดศูนย์กลางการสร้างสรรค์ของแคนาดา การเป็นมิตรทางธุรกิจ การเก็บภาษีต่ำ การได้รับเครดิต 3 เอ การมีหนี้สินต่ำ การมีแรงงานที่มีทักษะสูง การมีโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด การเป็นผู้นำเรื่องการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ การเป็นผู้นำเรื่องการค้าเสรี และการเป็นมณฑลที่ปลอดภัยและมีประชาธิปไตยที่มั่นคง

     - นอกจากนี้ นครแวนคูเวอร์ยังได้รับการโหวตให้เป็นเมืองที่ดีที่สุดในภูมิภาคอเมริกาเป็นครั้งที่ห้าในระยะเวลา 6 ปี เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดของโลกเมื่อปี 2009 และเป็นเมืองยอดเยี่ยมสำหรับการประชุมนานาชาติในอเมริกาเหนือ และจากการที่แวนคูเวอร์ประสบความสำเร็จในการจัดกีฬาโอลิมปิกส์ฤดูหนาวเมื่อต้นปีที่ผ่านมาจึงนับเป็นโอกาสที่แวนคูเวอร์จะได้ใช้เป็นจุดแข็งในการขยายตลาดด้านทักษะความเชี่ยวชาญในการจัดการแข่งขันระดับโลกโดยเล็งเป้าหมายไปยังเมืองต่าง ๆ ที่ได้รับเลือกให้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก


     2. การท่องเที่ยว
     การท่องเที่ยวในบริติชโคลัมเบียเป็นอุตสาหกรรมบริการที่ทำรายได้ให้แก่มณฑลประมาณ 12.7 พันล้านเหรียญแคนาดา สามารถสร้างงานได้ 129,000 ตำแหน่ง โดยมีจุดขายของมณฑล ได้แก่ ความสะอาด ยั่งยืน ยอดเยี่ยมและธรรมชาติ นอกจากนี้ การได้รับการโหวตให้นครแวนคูเวอร์เป็นเมืองที่ดีที่สุดในด้านต่าง ๆ การมีศูนย์ประชุมนานาชาติแห่งใหม่ รวมทั้งความสำเร็จในการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกส์ฤดูหนาว ยิ่งเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ไปเที่ยวบริติชโคลัมเบียเพิ่มมากขึ้น

     สำหรับการส่งเสริมการท่องเที่ยวของมณฑลนั้น กระทรวงการท่องเที่ยว ฯ ได้เข้าร่วมในการจัดนิทรรศการและกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวตามเมืองใหญ่ ๆ อาทิ ซานฟรานซิสโก และโตเกียว รวมทั้งเข้าร่วมงานแสดงสินค้าต่าง ๆ ในอินเดีย จีน และเม็กซิโก เป็นต้น ซึ่งแต่ละครั้งในการเข้าร่วมงานได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานและสื่อต่าง ๆ เป็นอย่างสูง


     3. การคมนาคมในบริติชโคลัมเบีย

     3.1 การลงทุนในด้านคมนาคม
     รัฐบาลแคนาดา มณฑลบริติชโลัมเบีย มณฑลทางภาคตะวันตกของแคนาดา และภาคเอกชน ได้ร่วมกันกำหนดยุทธศาสตร์ประตูแคนาดาด้านแปซิฟิก ( Canada’s Pacific Gateway) ด้วยตระหนักว่าการคมนาคมมีบทบาทสำคัญทางด้านเศรษฐกิจ ประตูแคนาดาด้านแปซิฟิกจึงเป็นเครือข่ายคมนาคมแบบผสมผสานของสนามบินระดับโลก ท่าเรือ รถไฟ ถนนและด่านชายแดน เพื่อนำแคนาดาและอเมริกาเหนือไปสู่เอเชียและโลกโดยรวม และนับตั้งแต่ปี 2003 เป็นต้นมา หุ้นส่วนต่าง ๆ ดังกล่าวได้ร่วมกันลงทุนในโครงการต่าง ๆ ไปแล้วประมาณ 22 พันล้านเหรียญ ทั้งการสร้างและการซ่อมถนนต่าง ๆ และการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเฟรเซอร์ การสร้างและการซ่อมทางรถไฟสายต่าง ๆ การขยายท่าเรือที่นครแวนคูเวอร์และเมือง Prince Rupert เพื่อรองรับเรือสินค้าที่จะเพิ่มมากขึ้นในอนาคตแทนท่าเรือนครลอสแอนเจลิสและลองบีช ส่วนการขนส่งทางอากาศนั้น หุ้นส่วนประตูแคนาดาด้านแปซิกได้ลงทุนจำนวน 210 ล้านเหรียญเพื่อขยายสนามบินและสร้างทางวิ่งเพิ่มเติมสำหรับสนามบินเป้าหมายในเมืองต่าง ๆ ในบริติชโคลัมเบีย อาทิ สนามบิน Prince George สนามบิน Abbotsford และสนามบิน Kamloops เป็นต้น นอกเหนือจากที่ได้ลงทุนจำนวน 2 พันล้านเหรียญในการเชื่อมรถไฟฟ้าระหว่างสนามบินแวนคูเวอร์กับ downtown ไปแล้ว

     3.2 นโยบายเปิดน่านฟ้า (Open Skies)      โดยที่รัฐบาลแคนาดา บริติชโคลัมเบียและหุ้นส่วนต่าง ๆ ได้ลงทุนใน Canada’s Pacific Gateway ไปเป็นเงินจำนวนมากแล้ว อย่างไรก็ดีบริติชโคลัมเบียเล็งเห็นว่า Air Service Agreement (ASA) เป็นปัจจัยหลักประการหนึ่งที่เป็นอุปสรรคอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของ Canada’s Pacific Gateways เพราะใน คตล.มีการจำกัดสนามบินที่เครื่องบินจะไปลงรวมทั้งจำกัดจำนวนเที่ยวบินด้วย การเปิดน่านฟ้า (Open Skies) จะช่วยให้ผู้ประกอบการบินมีอิสระที่จะเลือกเส้นทางการบินและความถี่ของเที่ยวบินและยังอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารรวมทั้งการขนส่งสินค้า นอกจากนี้ การเปิดน่านฟ้ายังเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น มีการติดต่อทางธุรกิจมากขึ้น มีการยืดหยุ่นในการส่งสินค้า และเป็นการปรับตัวให้ทันกับแนวโน้มการเปิดเสรีทางอากาศในโลกปัจจุบัน

     สำหรับพัฒนาการในการเปิดน่านฟ้ากับสหรัฐ ฯ นั้น เมื่อปี 1994 บริติชโคลัมเบียได้รับสิทธิการบินจากสนามบินแวนคูเวอร์ไปยังสหรัฐฯ ได้เพียง 7 เมือง ด้วย 6 สายการบิน อย่างไรก็ดี ปัจจุบันสามารถทำการบินไปยังสหรัฐฯ ได้ 23 เมือง ด้วย 14 สายการบิน ซึ่งการเปิดน่านฟ้ากับสหรัฐฯ นับเป็นประโยชน์ด้านเศรษฐกิจทั้งบริติชโคลัมเบียและสหรัฐ ฯ อย่างเห็นได้ชัด ในขณะเดียวกันบริติชโคลัมเบียหวังที่จะแสวงหาลู่ทางเปิดน่านฟ้ากับประเทศอื่น ๆ ด้วย และการเปิดน่านฟ้ากับต่างประเทศที่ได้รับความสำเร็จอย่างมาก ได้แก่ การเปิดน่านฟ้ากับเกาหลีใต้ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

     อนึ่ง สิ่งที่บริติชโคลัมเบียได้ดำเนินการไปแล้วเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการเปิดน่านฟ้าได้แก่การเน้นเป็นหุ้นส่วนกับรัฐบาลกลาง การประสานกับผู้ที่ได้เสียทั่วโลกและจัดการประชุมสุดยอด (Open Skies Summit) ขึ้นที่นครแวนคูเวอร์ เมื่อเดือนกันยายน 2009 เพื่อแสวงหาลู่ทางความเป็นไปได้ในการเปิดน่านฟ้า และต่อมาบริติชโคลัมเบียได้ลงนามในแถลงการณ์ร่วมเปิดน่านฟ้ากับมณฑลอัลเบอร์ต้าและซัสคัทเชวัน เพื่อเรียกร้องให้มีการเชื่อมโยงการคมนาคมโดยตรงระหว่างแคนาดาตะวันตกกับทั่วโลกโดยปราศจากการกีดกัน ซึ่งแถลงการณ์ร่วมดังกล่าวได้รับการลงนามโดยมุขมนตรีทั้ง 7 คน ของภูมิภาคแคนาดาตะวันตกแล้ว นอกจากนี้ บริติชโคลัมเบียยังได้ดำเนินกิจกรรมอื่น ๆ เพื่อส่งเสริมผลักดันให้มีการเปิดน่านฟ้า อาทิ การนำร่องโครงการ Transit Without Visa (TWoV) และการยกเว้นภาษีน้ำมันเชื้อเพลิงแก่เครื่องบินพลเรือนนานาชาติที่ใช้สนามบินแวนคูเวอร์ เป็นต้น

     ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จากสถานกงสุลใหญ่ ณ นครแวนคูเวอร์ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น